ค้นหาโปรแกรมทัวร์

ซ่อน

อุมเราะห์เดือนธันวาคม 2567 - มกราคม 2568

    แพคเกจฮัจย์

      อุมเราะห์เดือนเมษายน 2568

        ข่าวประชาสัมพันธ์

        • พิธีเปิดการเดินรถไฟความเร็วสูง-อัลฮะรอมเมนย์

          ในวันนี้(อังคารที่25กันยา) กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซีซ ทำพิธีเปิดการเดินรถไฟความเร็วสูง-อัลฮะรอมเมนย์ อย่างเป็นทางการ . ??‍✈️โดยเส้นทางของรถไฟความเร็วสูงนี้มีความยาวทั้งหมด 450 กิโลเมตร ? ความเร็วสูงสุดวิ่งได้เกิน300กิโล/ชม. ? รถไฟเที่ยวหนึ่งสามารถจุผู้คนได้ถึง 417 ที่นั่งต่อ1เที่ยว ? สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะเชื่อมตัวนครมักกะห์กับนครมาดีนะห์ โดยจะผ่านนครเจดดาห์และรอบิฑ ? โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการคมนาคมขนส่งระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ⏱ โดยการเดินทางจากนครมักกะห์ไปยังนครมาดีนะห์จะใช้เวลาเพียง2.20ชม. เท่านั้นเอง ? ราคาที่ทางการได้ประกาศออกมา – ในช่วง2เดือนแรก (โปรโมชั้น) มักกะห์ – มาดีนะห์ (หรือสลับกัน) ชั้นEconomy class : 75 ริยัล ชั้น Business Class : 150 ริยัล มักกะห์ – เจดดาห์ (หรือสลับกัน) ชั้นEconomy class : 20 ริยัล ชั้น Business Class : 25 ริยัล – ราคานับจากปลายเดือนพฤศจิกาเป็นต้นไป … Continued

          อ่านต่อ
        • เหตุการณ์สำคัญ ณ ฮุดัยบียะห์

                    มัสยิดฮุดัยบียะห์ ห่างจากมัสยิดอัลฮะรอมประมาน 24 กิโลเมตร สาเหตุที่เรียกว่าฮุดัยบียะห์เนื่องจากว่า ใช้ชื่อของบ่อน้ำฮุดัยบียะห์ที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ที่ท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)ทำการให้สัตยาบันภายใต้ต้นไม้นั้น และฮุดัยบียะห์ตั้งอยู่ที่ทิศตัวตกของนครมักกะห์ และอยู่ภายนอกเขตฮะรอม           หลังจากบรรดามุสลิมได้อพยพมาอยู่ที่มะดีนะฮ์ 6 ปี พวกเขาถูกตัดขาดมิให้เยี่ยมเยือนมัสยิดอัลฮะรอม และการฏอวาฟที่บัยตุลเลาะห์ ท่านนบีได้ฝันเห็นว่าท่านและบรรดาซอฮาบะฮ์ทำการตอวาฟอุมเราะห์           ท่านนบี ได้คาดการณ์แล้วว่าพวกกุเรชจะขัดขวางมิให้เข้าสู่มักกะห์  ท่านจึงพยายามรวบรวมมุสลิมให้ได้มากที่สุด มีบรรดามุสลิมีนที่ไปพร้อมกับท่านถึง 10,400 คน   และได้แสดงให้ชาวกุเรชเห็นว่าเจตนาของท่านนั้นบริสุทธิ์ใจ มิได้ออกไปเพื่อทำสงครามด้วย ท่านได้ต้อนฝูงสัตว์ที่จะเชือดในการทำพิธีให้อยู่หน้าขบวน และพร้อมทั้งสวมชุดเอี๊ยะห์รามเพื่อทำอุมเราะฮ์ และเมื่อได้ทราบข่าวในระหว่างทางว่าชาวกุเรชเตรียมขัดขวางไม่ให้เข้ามักกะห์ และมีเจตนาที่จะทำสงคราม ท่านจึงเปลี่ยนเส้นทางเดินเพื่อหลบเลี่ยงการปะทะ จนเดินทางไปถึงที่ ฮุดัยบียะห์ และลงพัก ณ ที่นั้น           ฮุดัยบียะห์นี้เอง ท่านนบีได้ส่งอุสมาน บิน อัฟฟาน เป็นตัวแทนเพื่อเจรจากับพวกกุเรช และพยายามที่จะให้พวกเขาเปิดเส้นทางให้บรรดามุสลิมเข้าสู่มัสยิดอัลฮะรอม และทำอุมเราะฮ์ แต่ว่าพวกกุเรชได้กักขังหน่วงเหนี่ยวอุสมาน แล้วปล่อยข่าวว่าได้ทำการสังหารอุสมานเสียแล้ว   ท่านนบี จึงให้บรรดาซอฮาบะฮ์ทำสัตยาบัน ในการร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน … Continued

          อ่านต่อ
        • สมรภูมิ ณ ภูเขาอุฮุด

          เมื่อสงครามกุเรชประสบกับความปราชัยในสงครามบัดร์จึงทำให้ไม่มีความปลอดภัยในการเดินทางไปค้าขายยังประเทศชาม ทำให้เศรษฐกิจของชาวกุเรชมักกะห์ประสบความชะงัก บรรดาผู้นำในเผ่ากุเรชจึงได้จัดการประชุมกับอบูซุฟยาน โดยกล่าวว่า มูฮัมมัดได้ฆ่าพวกเรา เราพอใจที่จะสละผลกำไรในทรัพย์สินของเรา เพื่อเป็นกองทัพเพื่อทำสงครามกับมูฮัมมัดหรือไม่? พวกเขารวบรวมทรัพย์สินได้ 5,000 ดีนาร และรวบรวมกำลังทหารได้จำนวน 3,000 คน และยกกองทัพมุ่งหน้าไปเมืองมาดีนะห์โดยตั้งค่ายอยู่ที่ทุ่งด้านเหนือของเมืองมาดีนะห์ ใกล้กับภูเขาอุฮุด เมื่อท่านนบีมูฮัมมัดได้เห็นข้าศึกมาตั้งค่ายอยู่ใกล้กับกำแพงเมืองมาดีนะห์ ท่านจึงได้ปรึกษากับบรรดาซอฮาบะห์ บางคนมีความเห็นว่า ควรจะอยู่ภายในเมืองเพื่อป้องกันเมืองไว้ บางคนมีความเห็นว่า ควรจะออกไปทำสงครามกับข้าศึกภายนอกเมือง จนกระทั่งวันศุกร์เมื่อได้ละหมาดญุมอะห์เรียบร้อยท่านจึงได้สวมเสื้อเกราะเพื่อเตรียมทำสงคราม บรรดามุสลิมจึงรู้ว่าท่านนบีจะออกไปทำสงคราม จึงได้ตระเตรียมสัมภาระเพื่อออกไปทำสงครามร่วมกับท่านนบี จำนวนทหารมุสลิมทั้งหมดมี 1,000 คน เมื่อท่านนบีนำบรรดามุสลิมเดินออกไปนอกเมืองมาดีนะห์ อับดุลเลาะห์ อิบนิ อุบัย หัวหน้าของพวกมุนาฟิกีนก็ได้นำทหารจำนวน 300 คน เดินทางกลับเข้าเมืองมาดีนะห์ กองทัพมุสลิมจึงเหลือทหารเพียงแค่ 700 คน ท่านนบีมูฮัมมัดยังคงนำกำลังมุสลิมเดินทางต่อไป จนกระทั่งล่วงถึงยามค่ำคืนจึงไปถึงหุบเขาอุฮุด

          อ่านต่อ